วิกฤติการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ….ย่อมจะส่งผลเสียหาย ทำลายผลผลิต และเสียงบประมาณการลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก การรับมือกับสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนเป็นเรื่องสำคัญที่ชาวนาหลายพื้นที่เริ่มตื่นตัว
ทามกลางสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่ก่อให้เกิดสภาพฝนตกที่ไม่มีรูปแบบแน่นอนตายตัว ถึงแม้ในภาพรวมปริมาณน้ำฝนไม่ต่างไปจากเดิมมากนัก แต่ลักษณะการตกของฝนมีความแปรปรวนไม่แน่นอนมากขึ้น ซึ่งอาจจะตกหนักมากในช่วงเวลาสั้นๆ หรือแล้งมากอันเนื่องจากฝนทิ้งช่วงยาวนาน ทำให้ชาวนาจำเป็นต้นตั้งรับและปรับตัวด้วยกระบวนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ
วิกฤติการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ….ย่อมจะส่งผลเสียหาย ทำลายผลผลิต และเสียงบประมาณการลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก การรับมือกับสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนเป็นเรื่องสำคัญที่ชาวนาหลายพื้นที่เริ่มตื่นตัว เช่นการทำนาในระบบ “การปลูกข้าวต้นเดียว” รวมทั้งการใช้เครื่องมือการเกษตรรูปแบบเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง “เครื่องหยอดข้าว” ระบบการทำนาดังกล่าวใช้เมล็ดพันธุ์ลดลงมากกว่าเดิมถึง 70% เป็นระบบการปลูกข้าวแบบนาดำ โดยเว้นระยะห่างเป็นช่องระหว่างแถวที่กว้างขึ้นทำให้จัดการวัชพืชได้ง่ายและดีมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช และแปลงนายังสามารถรับมือกับปริมาณน้ำฝนที่มาน้อยในช่วงต้นฤดูได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญการแตกกอที่เพิ่มมากขึ้นกว่า 40% ส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แน่นอนว่ายังมีอีกหลากหลายวิธีการในการตั้งรับปรับตัวต่อสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่นับวันจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น การทดลอง การเรียนรู้ และการลงมือทำ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่หลายภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังต่อไป…..